ประโยชน์ของการกินแบบไทยๆ
การกินน้อย กินพอประมาณ การรู้จักคำว่า กินน้อย กินพอประมาณ
จะช่วยให้ร่างกายสามารถขจัดสิ่งที่ล้นเกินความต้องการได้อย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพ
หวานพอดี เค็มพอดี มันพอดี ร่างกายรับรู้ได้จัดการได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ารับหวาน
มัน เค็ม เข้าสู่ร่างกายไม่มีหยุด ไม่มีพอ อย่างที่เด็กหรือวัยรุ่นหลายรายกำลังดำเนินชีวิตอย่างนี้ก็เป็นการทำร้ายระบบอวัยวะขับถ่ายของร่างกายของเราให้เสื่อมทรุดไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง
โดยพื้นฐานแล้วขนมไทยเป็นของกินตามวาระสำคัญๆ
มากกว่าจะเป็นของว่างที่ให้กินหลังอาหารมื้อหลักเสียด้วยซ้ำ
(การกินเป็นของว่างเป็นวัฒนธรรมตะวันตก)
และวาระที่ว่าก็มักจะเป็นวาระที่เกี่ยวข้องกับงานบุญแทบทั้งสิ้น
ขนมไทยได้เข้ามามีบทบาทในงานบุญตั้งแต่อดีตมาแล้วที่คนไทยทำขนมพิเศษๆ
เฉพาะงานบุญขึ้น นั่นหมายถึงในปีหนึ่งๆ จะมีการทำขนมชนิดนั้นเพียง 1 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากทำยากและต้องใช้แรงใจแรงกายของคนหลายๆ คนร่วมกัน
ชาวบ้านจะทำขนมนั้นๆ ในปริมาณมาก
ซึ่งถ้าเหลือจากงานบุญก็จะนำไปแจกจ่ายเพื่อนบ้านและเก็บไว้กินเอง
จะเห็นว่า
การกินขนมของคนไทยสมัยก่อนนั้นเป็นของคู่งานบุญ
ไม่ได้กินกันพร่ำเพรื่อเหมือนการกินขนมของคนสมัยนี้
ซ้ำขนมไทยก็ไม่ได้อยู่ในสถานะของการเป็นอาหารว่างที่จะมานั่งละเลียดกินหลังอาหารมื้อหลักเหมือนอย่างที่เรากำลังทำอยู่
อาหารว่างเป็นการกินตามวัฒนธรรมของตะวันตกที่เพิ่งเข้ามาในภายหลัง
การสอนให้เด็กมีวินัยในการกินขนมนั้น
ควรแนะนำให้เขาได้รู้จักขนมไทยให้มากขึ้นเพื่อเป็นอีกทางเลือกที่จะเข้าไปทดแทนขนมถุงในเวลาต่อไป
สอนให้รู้จักความหมายและที่มาที่ไปของขนมไทย
ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองควรเริ่มทำขนมไทยให้เด็กได้กินเอง
โดยเริ่มจากขนมที่ทำได้ง่ายๆ อย่างเช่น ขนมประเภทผลไม้เชื่อมใส่น้ำเชื่อม
หรือน้ำกะทิใส่น้ำแข็ง ซึ่งขนมประเภทนี้สามารถพัฒนาหาผลไม้ที่มีประโยชน์มาใส่ได้สารพัด
ที่สำคัญอย่าลืมเปิดโอกาสให้เด็กได้ร่วมกิจกรรมในการทำขนมด้วย เอาขั้นตอนง่ายๆ
อย่างการช่วยปอกกล้วย ปอกผลไม้ ก็ได้
โดยตกลงกันในครอบครัวว่าจะทำขนมกินกันเองอาทิตย์ละครั้งพร้อมๆ
กับลดค่าขนมถุงของเด็กลงเป็นลำดับ ลูกหลานของเราจะห่างไกลภัยจากขนมถุงได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าครอบครัวแต่ละครอบครัวจะใส่ใจให้ความสำคัญสร้างสรรค์กิจกรรมดังกล่าวให้เกิดขึ้นเป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหนนั่นเอง
เคล็ดลับการกินขนมไทยสำหรับคนกลัวอ้วน
ห่วงหวาน
ด้วยวัตถุดิบที่หลากหลายทำให้ขนมไทยแตกหน่อออกลายมากมายหลายชนิด
ในขณะที่รสชาติหอมหวานมันก็พัฒนาจนกลายเป็นศิลปะชั้นเลิศทางด้านอาหาร
ทำให้ขนมไทยมีความพอดีอยู่ในตัว คือ ไม่หวาน ไม่มันจนเกินพอดี
แต่อย่างไรก็ดีขนมไทยก็ยังเป็นของหวานที่คนบางคนอาจจะต้องระมัดระวังอยู่บ้าง
โดยเฉพาะสำหรับคนที่กลัวอ้วนห่วงหวานแต่ไม่อยากจะพลาดขนมไทย
ข้อแนะนำการกินขนมไทยแบบระวังหวาน
ให้เลือกกินขนมไทยประเภทที่มีส่วนประกอบของน้ำหรือเป็นขนมน้ำดีกว่าขนมประเภทเชื่อม
หรือขนมแห้ง เพราะการที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบในขนมมากๆ
จะทำให้มีสัดส่วนของแป้งและน้ำตาลน้อย ขนมที่แนะนำ อาทิ ตะโก้แห้ว กล้วยบวดชี
แกงบวดเผือก เผือกน้ำกะทิ ลอดช่องน้ำกะทิ ผลไม้ลอยแก้ว วุ้นน้ำเชื่อม
ซึ่งขนมน้ำประเภทที่ไม่ใช่แกงบวด
ถ้ารู้สึกว่าหวานมากเราสามารถเติมน้ำแข็งใส่เพิ่มเข้าไปได้
ขนมประเภทนี้จะให้พลังงานน้อยกว่าขนมประเภทเชื่อมหรือขนมแห้งอย่างพวกทองหยิบ
ทองหยอด ฝอยทอง หรือเม็ดขนุนค่อนข้างมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น